วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

ครั้งแรกก็...โอซาก้า

ครั้งแรกก็...โอซาก้า
17 - 21 Mar 2015

     จะเริ่มยังไงดีน๊าา... ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้นานละ ฮิฮิ บล็อคสุดท้ายที่มีก็ตั้งแต่สมัยสตอรี่ไทย(นานจริงๆ อายุเท่าไหรเนี้ย!) เอาล่ะเข้าเรื่อง ทำไมต้องครั้งแรกก็โอซาก้าเหรอ ก็เพิ่งไปโอซาก้ามาไง ฮ่าๆ งั้นเล่าเลยละกัน มันชื่อทริปนี้ว่า ซากุระบานอินเจะแพ๊น... แต่ช่วงที่ปซากุระก็ยังไม่บานฮ่ะ เจอแต่ดอกบ๋วย ฮาาา เอาจริงๆ เราไปดูคอนเสิร์ต ฮ่าๆ (จะมีเพื่อนร่วมงานมาเจอมั้ยเนี้ย) แต่ก็ไม่ติ่งซะทีเดียวหรอก พอดีเราก็อยากไปเที่ยว อยากไปเที่ยวตปท. มานานละ(ย่อทำไม) เราก็อยากไปญี่ปุ่น ประเทศในฝันของหลายๆ คน แผนการไปญี่ปุ่นครั้งนี้เลยเริ่มขึ้น...
        
         ก็ประมานปลายปีที่แล้วไม่รู้อะไรดลใจ นั่งดูคอนโทโฮชินกิ(ทงบังชิงกิรู้จักใช่ป่ะ)เก่าๆในยูทูบก็ดูตั้งแต่ 5 คน จนเหลือ 2-3 คนอ่ะ อ่อ ก่อนนั้นก็มีคอนเจวายเจที่ไทยประมานกลางปีใช่ม๊า แล้วเราจะพลาดเหรอ อ่า ฉันดู 3 คนแล้ว ฉันอยากดู 2 คนจังเลย ไม่รู้บิ้วตัวเองยังไง พอดีโทโฮชินกิ ครบรอบ 10ปี ที่ญี่ปุ่นด้วย ก็เลยไปบิ้วน้องที่ชอบด้วย "พาพี่ไปหน่อยพี่อยากดูสักครั้งก่อนตาย(เว่อร์อีกละ)" เราชอบ 3 น้องชอบ 2 (พวกเราอยู่ด้วยกันได้ฮ่ะ ฮ่าๆ) แต่มันตลกมากจริงๆ พอเราจัดการหาบัตรคอนโทโฮได้ละ มีแผนเล็กๆในใจ ก่อนสิ้นปีเจวายเจประกาศมีคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นจ้า เอ้า! ยังไงแย่แล้ว~~ เพื่อนก็มาบิ้วไปดูกันไหมๆ แต่ตอนนั้นเราเพิ่งดูไปเองนะ บั๊ยส์ค่ะ(อย่าด่าเรานะ) เอาจริงๆ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้บอกใครนะ ว่าจะไปคอนโทโฮ หุหึ ก็เงียบๆ ไว้ 
         พอถึงเวลาบอกเพื่อนว่าเฮ้ย เดี๋ยวเราจะไปดูคอนโทโฮนะ เพื่อนก็เดี๋ยวๆ มรุงเมนใคร เพื่อนไม่เชื่อสักคน ว่าเราจะไปจริงๆ ตอนขอที่บ้านว่าจะไปก็โดนบ่นนิดหน่อย(เหรอๆ) แล้วก็โดนบิ้วมาว่าจะเข้าประเทศเค้าได้เหรอ งกๆ เงิ่นๆ แบบเรา ไม่ใช่แค่แม่นะครัช เพื่อนก็บิ้วอีก นี่ก็เคลียดสิครัช ก่อนไปก็เคลียดมาก เตรียมเอกสารมากมาย ฮ่าๆ เราก็เคยออกนอกประเทศนะ แต่นานละ สมัยมหาลัยได้  

        มาถึงแพลนคร่าวๆ น้องให้เราเป็นคนคิดครัช เพราะว่าเป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกของเรา น้องก็ไปบ่อยเหมือนกัน เราก็แอบกลัวน้องว่าไปเที่ยวที่ซ้ำๆ น้องจะเบื่อมั้ยว่ะ เราก็ได้ศึกษาเส้นทางในพันทิพย์ หาเส้นทางกินอย่างเดียวเลย สรุปได้มาที่เดียว เราก็ไม่ค่อยกินแรงน้องฮ่ะ คิดแผนเที่ยวอย่างเดียว ไม่เตรียมอะไรเลย มันไม่น่าอวดใช่มั้ย เหอๆ น้องก็จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก นำเที่ยว บลาๆ เยอะเลย บอกเล่อเราได้ตั๋วเครื่องบินมาแพงและอกหักจากโปรมากมาย แถมได้แอร์X อีก น้ำตาจิไหล แต่ก็ไม่เจ็บตัวมากเท่าไหร(เหรอๆ) เราเลยไปกันแบบ Backpacks ปลาเก๊าคนละใบล่ะกัน แพลนคร่าวๆ มีดั่งต่อไปนี้!! (เล่นใหญ่มาก)
  • 16/03/15 ออกจากดอนเมือง สู่คันไซ
  • 17/03/15 ไปปราสาทโอซาก้า ดูซากุระ กินซอฟท์ครีม ถ่ายรูปป้าย Gulico
  • 18/03/15 ดูคอนเสิร์ต TOHOSHINKI Live Tour 2015 WITH~ Kyocara Dome 
  • 19/03/15 ไป Universal Studio JP  ฝนตก ไป Osaka Aquarium Kaiyukan
  • 20/03/15 ไปเกียวโต ดูเสาสีส้ม ต้องเก็บ Universal Studio JP
  • 21/03/15 ไปเที่ยวงานวัด(ทริปนี้ของน้อง) ... ตอนเย็นกลับดอนเมือง - -*
...ก็ตามนี้แหละ กี่วันเนี้ย 6 วัน 5 คืน จะนับ 7 วันก็ได้นะ เพราะกลับเที่ยงคืนวันที่ 21 ก็เป็นวันที่ 22 ล่ะ 

_______________________________

16/03/15-17/03/15

          เช้าวันที่ 16 วุ่นวายสุดๆ แบกกระเป๋าไปถึงออฟฟิศแปดโมงกว่าๆ ท่อน้ำแตกลิฟท์ใช้ไม่ได้ ใช้ได้แค่ 3 ตัว คนรอกันเต็มหน้าตึก กว่าถึงชั้นของตัวเองก็เก่าโมงนิดๆ ยังไม่ได้ซื้อหวย เฮ้ย ยังไม่ได้เคลียร์งานเลยครับ เที่ยงก็ต้องออกละ ลิฟท์ยังใช้ไม่ได้ เลยต้องเดินลง 16 ชั้น นัดน้องไว้เที่ยงครึ่ง MRT จตุจักร บินบ่ายสาม แต่ดีหน่อย เช็คอินในเว็บไปแล้วพอถึงสนามบินก็เดินเข้าไปเลยเกร๋ๆ
           บอกเล่อ การมาเที่ยวตปท.แบบไม่รู้ภาษาอะไรเลยมันไม่ง่ายแบบในหนังจีทีเอชเลยครัช คือกลัวตั้งแต่เดินลงจากเครื่อง 55 ยิ่งเรื่องเข้าประเทศไม่ได้อีก กลัวทุกครั้ง กลัวโดนถาม กลัวตอบไม่ได้ อิ้งง่าวมาก ได้แต่  ABC ฮ่าๆ พูดได้เป็นคำ ลิ้นแข็งมาก - -"


จะได้ไปแล้ว....



ตื่นมาหิว ไม่รู้จะกินอะไร แพงด้วย T^T



22.40 น. (เวลาประเทศญี่ปุ่น)
ถึงแล้ว คันไซ ถ่ายรูปไม่สวยเลยว่าม่ะ รูปสนามบินมีแค่รูปนี้รูปเดียว 555

กว่าจะผ่าน ตม. ไปได้ก็เกือบเที่ยงคืน คนเยอะมาก อ่อ คืนนี้เรานอนสบานบิน "ประหยัดเหรอ" ฉันตอบเลยว่า "ใช่!"  555+ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่นอนที่นี่ เพราะเที่ยงคืนรถไฟก็หมดแล้ว อ่อ ที่สนามบินมีผ้าห่มแจกนะ แต่จำนวนจำกัด แล้วกว่าเราจะออกจากตม.มาได้ ผ้าห่มก็หมดแล้ว แต่ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร ที่นั่งก็หายากละ คนเยอะเดินไปเดินมาอยู่นาน เช้าตื่นประมาน ตี 4 กว่าๆ ไม่ใช่อะไรเคาเตอร์เช็คอินตรงนั้นเปิดพอดีคนเยอะ สิ่งแรกที่ทำคือไปอาบน้ำ ที่สนามบินมีบริการห้องาบน้ำ อาบได้ 15 นาที(น้ำไหล) ราคา 510 เยน มีไดร์เป่าผมให้ด้วย อาบเสร็จแล้วค่อยจ่ายนะ เค้าจะมีเหรียญให้เราหยอด กด Start น้ำพุ่งเลย


ภายในห้องอาบน้ำ 

ประมาน 7 โมง เราก็ออกจากสนามบิน เอากระเป๋าไปฝากที่เกสเฮ้าส์ 


ขึ้นรถไฟเข้าเมืองแล้ว 


ถึงละ  Hotel Toyo แวะเอากระเป่ามาฝากก่อน นั่งพักสักแพร้บบ 



นึกขึ้นได้ ยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลยนิน่า
รีบวิ่งเข้า Lawson ล่ะก็ได้สิ่งนี้มา กินน้อยจุง 


            พร้อมมออกเดินทางไปปราสาทโอซาก้าแล้ว จากการคำนวนดูแล้วซื้อบัตร One-Day Pass เลยละกัน วันธรรมดา 800 เยน วันเสาร์-อาทิตย์ 600 เยน .. มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ฮ่าๆ แล้วก็กางแผนที่ได้มากจาเกสเฮ้าส์ ว่าเราต้องไปลงใต้ดินตรงไหน ขึ้นๆ ลงๆ เปลี่ยนสายรถไฟจนงง เราฟังไม่ได้ออกด้วย แต่เราก็มาถึงจนได้ ลงใต้ดิน Tanimachiyon (4) chome Station ออกประตู 1B ขึ้นมาเจอเซเว่น แล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ระหว่างทางน้องก็เริ่มไม่ค่อยแน่ใจละ ใช่ไม่ใช่ จนเดินไปเจอตึกสูงๆ กระจกๆ เห็น NHK โล่งใจเรามาถูกทางแล้ว




นั่นข้ามถนนไปก็เจอปราสาทแล้ว ...



ดีใจได้เห็นหลังคาปราสาทแล้ว

       โชคไม่ค่อยดีมีหลายจุดที่ปิดปรับปรุง เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร(เอ็งถ่ายรูปสวยมาก)  เอกลักษณ์ของปราสาทนี้คือ พอเดินเข้าประตูมาปุ๊บ จะได้ยินเสียงเด็กมากมาย เราก็ป่ะๆ ตามหาเสียงเด็ก ไม่ใช่ล่ะ ก็เดินไปเรื่อยๆ อ่อ เราไม่ได้เข้าตัวปราสาทนะ เดินวนอยู่รอบๆ นั่งดูเด็กๆ ที่คุณครูพามาทัศนศึกษา แอบถ่ายรูปมานิดหน่อย เพราะเหมือนเค้าจะห้ามถ่ายใช่ม่ะ เคยเห็นคนโพสเตือนๆ แต่จำไม่ได้ว่าเห็นที่ไหน ตามรีวิวครัช มาถึงแล้วต้องกินซอฟท์ครีม เรานี่ร้องจะกินตั้งแต่หน้าประตู น้องคงเอือมนั่งพักถ่ายรูปกับปราสาทจนสบายใจ เราก็ไปต่อแถวซื้อซอฟท์ครีม *ยิ้ม* ได้กินล๊าวววว ซื้อเสร็จก็เดินออกทางหลังปราสาทเพื่อจะเดินไปสวนข้างหลังดูดอกไม้ ลืมบอกวันนี้อากาศดีเลย อ่อ แล้วก็มีเรื่องให้ล้อน้องยันลูกบวชเลย คือระหว่างเดินไป น้องก็บอกว่าเนี้ยมีโดมของข้างๆ เคียวเซราโดม แน่ๆ(โดมที่เราจะไปดูคอน) น้องก็แบบปีนขึ้นไปดูสิ จะเห็นหลังคาโดม เราก็ปีนขึ้นไป อ่อ ถ้าใครเคยไปจะรู้ว่ากำแพงมันสูง พอขึ้นไปถึง "เฮ้ย ใช่เหรอ" ไม่เห็นมีคน นี่มันโอซาก้าโจรึเปล่า เราก็รีบสไลด์ก้นลงมาจากเนินนั้น วิ่งไปดูป้าย ปรากฏว่าใช่ฮ่ะ มันคือ โอซาก้าโจ ฮ่าๆ บอกเล่อสภาพร่างกายเราตอนนั้นปวดเมื่อยมาก แถมที่มะวานเดินลงจากตึก 16 ชั้นมันก็ออกอาการแล้ว คือปวดขาปวดหลังมาก อยากได้พี่เสือรึเคาเตอร์เพลนมาเยียวยา ไม่คิดว่าร่างจะพังตั้งแต่วันแรก รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้ ลืมพกยามาจากไทย T^T 


แอบถ่ายน้องไกลๆ 


ซอฟท์ครีม พี่มาล๊าววว 







สวนหลังปราสาทอลังการมากซากุระยังไม่มา
ดูดอกบ๋วยแทนก็ได้สวยงามตามท้องเรื่องเหมือนกัน




              แล้วเราก็เดินรอบปราสาทหนึ่งรอบใหญ่ ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินวนอยู่ในเขาหนึ่งลูก ระหว่างทางเจอคนมากมาย มีตั้งแต่เด็กเล็กๆ หนุ่มสาว คนแก่ ทัวร์ แต่คนแก่เยอะมาก เค้าสู้กว่าเรามากที่เดินบ่นตลอดทาง ตอนนั้นก็บ่ายล่ะ เอาจริงๆ ง่วงอยากนอนมาก นี่ถ้ามีอะไรปูนอนได้คงของีบก่อน แต่ก็หิวด้วย เลยบอกน้องว่าเราไปหาอะไรที่เป็นแลนด์มาคของที่นี่กินกันเทอะ พี่อ่านมาในพันทิพย์ร้านโอโคโนมิยากิร้านนี้อร่อย อยู่แถวสถานีอุเมะดะ แผนที่อะไรก็ไม่หามาเลย นอกจากเราต้องไปอุเมะดะ แค่นั้น ฮาาา (อาจจะไม่ตลกครัช) พอไปถึง ติดบัตรรถไฟออก ออกไม่ได้(เส้นทางนี้ไม่ได้อยู่ในโปรบัตร) ต้องไปกดเพิ่มเสียไป 220 เยน พอเดินออกไปก็ไปทางไหนต่อละ หา wifi ฟรีแพร้บ อ่อ เราก็มาญี่ปุ่นกันแบบไม่เช่า wifi มาด้วยครัช เพราะคิดว่าเราไม่หลงมั่ง ฮ่าๆ แล้วแผนที่ที่หามาก็ไม่ละเอียดเท่าไหร่ รู้แต่ว่าเดินๆ ไป เจอแยก อยู่แถวๆ แยก เดินข้ามแยกไปมา ก็หาไม่เห็นว่ะ จนน้องตัดสินใจถามคนแถวนั้น 


ออกจากใต้ดินมาเจอนี่ตึกอะไรสวยจัง 
เราตื่นตาตื่นใจมาก เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง



ในที่สุดก็เจอร้านแล้ว จากรูปบน(รูปตึก) ข้ามถนนไปฝั่งซ้าย
เดินเรียบๆ ทางรถไฟไปจะเจอ Anna sui ร้านก็อยู่ข้างๆ กัน







เรากับน้องสั่งมา 2 อย่างครัช อย่าถามว่าชื่ออะไรบ้าง คือลืมแล้ว
รู้แต่ว่าพี่อยากกินที่มันห่อไข่  น้องก็เลยสั่งเนงิยากิ ซีฟู๊ด ค่าเสียหายก็ 2100 เยน(โดยประมาณ)


          แวะ HEP FIVE ตึกที่มีชิงช้าสีแดงๆ นั้นแหละ จากตอนแรกกะว่ากินเสร็จแล้วกลับเข้าเกสเฮ้าท์ไปเช็คอิน แล้วงีบสักหน่อย กลายเป็นว่าเพลิน กะมาเข้าสตาร์บัคมาดูราคาแก้วซะหน่อย จะซื้อมาฝากพี่ แต่เจอ wifi ฟรี นั่งนานเลยจ้า ได้นั่งพักร่างแล้ว (ข้อมูลฟรี Wifi อยู่ข้างล่างค่ะ เลื่อนไปให้สุด)
         ออกจากตึกนั้นก็เย็นแล้ว น้องดันตาดีเห็นคนถือถุง Tower records จะเสิร์ชหาทางไปก็ไม่ได้ละ wifi ก็ไม่มีแล้ว แต่เหมือนโชคจะเข้าข้าง(เหรอๆ) มองเห็นป้ายทางไปก่อนจะลงใต้ดิน ก็เลยได้ไป Tower records ต่อ Tower records คืออะไร มันคือร้านเทปนั้นเอง เดี๋ยวๆ ร้านขายพวกซีดี ว๊อยยย ทางไปตึกก็เห็นป้ายยูนิโคล่นี่ใช่ป่ะ เดินเลยไปข้างตึก แล้วจะเจอตึกที่เขียนว่า Tower records กดลิฟท์ไปชั้น 6 เจอเลยร้านใหญ่มว๊ากกก เราก็ต่างคนต่างเดิน ไปตามทางของเรา แต่เราก็มีจุดนัดพบครัช ฮ่าๆ คือน้องเดินมาเจอเราแล้วก็พูดว่า กะแล้วต้องอยู่ตรงนี้ 555 


...จุดนัดพบ...

            กว่าจะออกจากที่นั้นก็ทุ่มกว่าๆ ลงใต้ดิน จะไปถ่ายรูปกับป้ายกุลิโกะแล้ว ไปยังไง เดินวนอยู่ในใต้ดินเกือบชั่วโมงกว่าจะเจอใต้ดินสายที่ไปชินไซบาชิ เราไปลงที่ชินไซบาชิน่ะคือมันเดินทะลุไปโดทนบุริได้อ่ะ แล้วร่างตอนนั้นคือไม่ไหวแล้วอ่ะ ฮ่าๆ พร้อมพังมาก แต่ก็เดินกันต่อไป ถึงชินไซบาชิแวะซื้อของฝากซื้อนิดหน่อย นี่ซื้อของกันตั้งแต่วันแรกเลยรึ เจอพี่เสือด้วยแต่สู้ราคาไม่ไหวจริงๆ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณหกร้อยได้ ทนปวดร่างต่อไป ในที่สุดเราก็เจอ ป้ายกุลิโกะแล้ว มวลมหาประชาชนเยอะจริงๆ 









             แล้วเราก็เข้าสตาบัตกันอีกรอบ ฮ่าๆ ก็มันมี wifi ฟรีนิน่า จริงๆ คือนั่งรอเวลานะ เรามีนัดกับคนที่เราซื้อบัตรคอนต่อจากเค้า เค้ากำลังดูคอนรอบวันนั้นอยู่อ่ะ กว่าเค้าจะไลน์มาก็ 4 ทุ่ม โชคดีที่ที่อยู่เค้าไม่ไกลจากแถวนี้เท่าไหร รถไฟหมดเที่ยงคืน เราจะทันมั้ยลุ้นมาก แต่ก็ทันนะ ฮ่าๆ บอกเล่อ บัตรรถไฟ ที่ซื้อมา 800 เยน ใช้คุ้มเลยล่ะ ไม่นับตอนหลง ฮ่าๆ 
            ถึงเกสเฮ้าท์ ก็ห้าทุ่มกว่าๆ เช็คอิน เข้าห้องนอน ผิด! พวกเราหิวกันอีกแล้ว ฮ่าๆ ก็เลยวิ่งฝ่าความหนาวเย็นออกไปซื้อโอเด้ง ที่ Lawson ตู้กับข้าวของเรา ฮาาา กินเสร็จก็ได้เวลานอนพักร่างของเรา พรุ่งนี้ต้องออกไปต่อแถวซื้อกู๊ดแต่เช้า ... ขอวันแรกของพวกแต่เพียงเท่านี้ พวกเราอัดแน่นจริงๆ (¯▽¯;)

ห้องนอนของเรา เปิดทีวีแล้วเจอพี่ทักกี้ อร๊ายยยย ขวัญใจวัยรุ่น ฮิฮิ 

_______________________________

18/03/15
ขอมาตามความฝัน ฮิฮิ

           เช้านี้ตื่นมาแปดโมง แต่ร่างไม่ไหวจริงๆ ขอแปดโมงครึ่งละกัน ปิดนาฬิกาปลุกนอนต่อ เดี๋ยวๆ อะไรคือออกแต่เช้าว่ะ แต่ก็ทำแบบนั้นจริงๆ แปดโมงครึ่งก็ลุกไปอาบน้ำแบบง่วงๆ งงๆ อ่อ บอกไปรึยังที่นี่เป็นแบบห้องน้ำร่วมแต่ก็ไม่ได้แย่มาก ดีที่ลงไปห้องน้ำว่าง อาบน้ำเสร็จทำไมเงียบๆ ว่ะ น้องข้าไปไหน ก็เลยเดินไปเคาะห้อง ปรากฏว่ายังไม่ตื่น แต่ก็กำลังดึงร่างตัวเองออกจากที่นอน เก้าโมงกว่าๆ ก็ได้ออกเดินทางไปเคียวเซร่าโดมตื่นเต้นจุง จะได้ดูคอนในฝันที่สมัยยังมีเรา(5คน) ฮ่าๆ น้องก็หาเส้นทางเรียบร้อยละ แต่พอเดินออกจาเกสเฮ้าท์ แค่นั้นแหละ เจอคนใส่แต่งองทรงเครื่องคุ้นๆ ตามเค้าไปเลยละกัน ฮ่าๆ พอลงใต้ดินยิ่งเจอเพื่อนเยอะขึ้นเยอะขึ้น ใช่แล้วล่ะ ไปที่เดียวกะเราแน่ๆ ในที่สุดก็ถึงเคียวเซร่าโดม ลงสถานีโดเมมาเอะชิโยซากิ สะกดยากจัง เอาเป็นDome-mae Chiyozaki Station ละกัน ออกประตู 2 มั่ง เพราะเดินตามๆ เค้าไป คือทั้งขบวนใช่หมดเลย ออกมาเจอ ห้าง AEON เจอโทโฮชินกิ ยืนต้อนรับอยู่ เดี๋ยวๆ แวะถ่ายรูปแป๊บหนึ่ง นึกได้เราต้องไปต่อแถวซื้อกู๊ดนิ ก็หยุด แล้วเดินๆ ตามๆ เค้าไปต่อ ... 

ยินดีต้อนรับค่ะ
 เดี๋ยวๆ 55+ รูปโทโฮชินกิเต็มหน้าห้างเลย 


KYOCERA DOME OSAKA



ภาระกิจสู้ชีวิต มาสายคนเยอะมว๊ากก ( ̄﹏ ̄)



ซื้อของ 5000 เยน ขึ้นไป ได้ลายเซ็นต์ จะพลาดเหรอ!

          พวกเราก็ซื้อรวมกันเลยละกัน จะได้ลายเซ็นต์ด้วย เผื่อได้ชางมิน(น้องชอบ)  พอคิดเงินเรียบร้อย ปริ้นใบเสร็จค่อยๆ ไหลออกมา ปรากฏว่าเป็นยุนโฮ *ฟิ้ววว* ลมพัดเบาๆ แต่ไม่ซีเรียส ฮ่าๆ เซ็งนิดหน่อย คืออีกสามคิวจะถึงละ จี้ประจำวันหมด ตอนนั้นก็ฟังไม่ออกอะไรว่ะๆ หันซ้ายหันขวา ได้ความว่าจี้หมด คนแถวข้างๆ ถึงกะปล่อยโฮ กว่าจะเรียบร้อยก็บ่ายโมงกว่าๆ หิวแล้วว เลยเดินกลับไปห้าง AEON ตอนแรกกะว่าจะกินแมคกัน แต่คนเยอะจริงๆ เลยเดินขึ้นไปชั้นบนสุดเป็นฟู้ดคอร์ทมีร้านอาหารมากมาย เดินวนไปวนมากว่าจะได้โต๊ะนั่ง แล้วก็แยกกันไปสั่งอาหาร อ้าวว แย่แล้ว ฉันจะกินอะไร ฉันจะสั่งอาหารรู้เรื่องมั้ย ใจเต้นตึบๆ ขอนั่งทำใจแป๊บ ให้น้องออกไปสั่งก่อน ... 



ทะด้าาา ... ข้าวหน้าไข่ ทงคัตสึ
╮(‵▽′)╭
ข้ารอดแล้ว!! สั่งอาหารกินได้ด้วย *ยิ้ม* ในเมนูเป็นภาพไง ก็ชี้ๆ เอา แฮะๆ 

            พอกินข้าวเสร็จ ก็เดินกลับมาที่โดม หาที่นั่งรอเวลาคอนเสิร์ตเริ่ม ก็นั่งหลับได้งีบใหญ่ๆ ฮ่าๆ พอใกล้ถึงเวลาประตูเปิด ฝนตก!! อ่าา แม้นจริงๆ ดูพยากรณ์อากาศมาจากใน Google ตรงด้วย คนก็เริ่มเข้ามาออๆ กันข้างใน ใครมีร่มก็ไปแถวเข้า ดีที่สตาฟตรวจเร็ว พวกเราก็เลยได้เข้ามาข้างในฮอลเร็ว ฮิฮิ ตื่นเต้นจุงเบยย 








            ในที่สุดเราก็ได้คอนเสิร์ตโทโฮชินกิ ที่มีที่ญี่ปุ่นที่นี่ที่เดียว เพลงเก่าๆ ที่อยากดูก็ได้ดู มันซึ้งใจจริงๆ ทั้งพลังศิลปินที่ส่งมา แล้วก็พลังคนดูที่ส่งไป มันเยอะมากจริงๆ สนุกครบรส กรี๊ดจนปวดหลัง ฮ่าๆ (ร่างยังไม่โอเค) ตอนที่ร้องโดชิเตะ คนเงียบทั้งฮอลขนนี่รุกซู่ๆ อะไรหลายๆ วิ่งเข้ามาใน หัวบิ้วตัวเองทำไม!! ก็คิดอะไรนิดหน่อยอ่านะ แต่โฮมินเอาอยู่! ฮ่าๆ ในที่สุดฉันก็นอนตายตาหลับละ แล้วตอนที่ร้อง with you (คอนใกล้จบละ) หันไปหาน้อง น้องกำลังอินเลย หน้าเบะล่ะ ร้องไห้เปล่าว่ะ เลยถามไปว่าพรุ่งนี้รอบสุดท้ายเราหาบัตรกันมั้ย น้องตอบกลับมาว่า "ตังอยู่ไหนละ" โอ้วว นึกว่าจะอินด้วย เอาเท่านี้ก่อนละกัน T^T ครั้งหน้ายังมี !! 

ปล. ขณะที่พิมพ์อยู่ตอนนี้ กำลังมีคอนรอบสุดท้ายที่โตเกียวโดม ทุกคนกำลังเสียน้ำตา(02/04/15)
              
            คอนเสิร์ตจบประมาน 4 ทุ่มกว่าๆ แอบถ่ายรูปมาได้นิดหน่อย(เหรอๆ) ฝนยังไม่จบครัช ยังคงตกอยู่ ถุงกู๊ดที่เราซื้อมามีประโยชน์จริงๆ เอาคุมหัวแล้ววิ่งไปลงใต้ดิน ฮ่าๆ ในใต้ดินคนก็มหาศาล พวกเราก็รีบๆ กดบัตรกลับบ้านกันเทอะ มาถึงสถานี Dobushi-mae เราเรียกมันว่าสถานีสวนสัตว์ เพราะมันมีรูปสัตว์เต็มเลย เพิ่งมารู้ทีหลีงว่า อ่อ มีสวนสัตว์อยู่ข้างบน ตอนแรกคิดว่าไกล ฮ่าๆ ถึงเกสเฮ้าท์ 5 ทุ่ม ยังไม่ดึกมากเท่าไหร่ หร๊าาาา วันนี้เพิ่งกินข้าวไปมื้อเดียวเอง ตั้งใจเดินไปร้านคุณป้าแถวๆ สี่แยกแถวนั้น พอดีเห็นเมื่อคืนตอนออกมา Lawson ถ้าเห็นก่อนนี่คือแวะละ เรามาถึงที่นี่ละ กินอะไรบ้านๆ หน่อยเป็นไง แต่พอเดินไปถึง อ้าวว ร้านปิดอดสิ งั้นกลับไปซบอก Lawson ก็ได้ แต่เอ๊ะ หันไปเจอแฟมิลี่ งั้นไปแฟมิลี่ดิก่า ฮ่าๆ แต่ดันเดินไปเจอร้านอาหารตู้กด เลยเข้าไปลองสักหน่อย เราก็เข้าไปงกๆ เงิ่นๆ กัน หาที่นั่งได้เราก็ไปที่ตู้กด เลือกอาหารหยอดเหรียญ แบงค์ก็ได้นะ แล้วก็กลับไปนั่งรอ... 

ชาข้าวเย็นๆ ชื่นใจ 

แต๊น! อาหารมาแล้ว ปลาซาบะย่างเหลือ 
╮( ̄▽ ̄)╭

             บอกเล่อวันนี้มันอิ่มเอมใจจริงๆ อยากดูคอนอีกรอบ อยากระบาย แต่ wifi เกสเฮ้าท์ไม่อำอวย อดโวยวายในเฟชบุคเลย ได้แต่นอนฟังเสียงฝนตกที่หน้าต่าง นอนดูทีวีไปเรื่อยเปื่อย กว่าจะได้ซ่อมร่างก็ข้ามคืนเหมือนเดิม ฮ่าๆ 

ตอนอยู่ในรถไฟเว้ย! เจอแฟนบอยพี่ยุน น่ารักดั๊ว เราก็รีบเบียดทุกคนไปยืนข้างๆ เราก็นึกว่าน้องจะรู้งานยกกล้องมาแอบถ่ายไรงี้ ไม่เลย บรั๊ยส์!

_______________________________

19/03/15
วันที่ฝนตกไหลลงที่หน้าต่าง

         สวัสดีเช้าที่สดใส ไม่จริง!! ฝนยังตกอย่างต่อเนื่อง แผนไป USJ ก็ล่มสินะ แล้วเราจะไปไหนได้เนี้ยย อ่อ วันนี้เราต้องที่พักด้วยล่ะ 


บะ...บาย โทโย โฮเทล

ฝนตกพร้ำๆ เหงาจุง นี่อารมณ์ไหนเนี้ย ฮ่าๆ 

            ย้ายเกสเฮ้าท์ไปนู้นเลย แถวๆ Sakai (กางแผนที่) จากที่จะไปยูนิเวอร์แซลก็ผิดแผนไป ก็ฝนยังไม่หยุดตกนิเน๊าะ T^T แต่ไม่เป็นไร ยังไงที่นี่ก็ต้องมีที่เที่ยวสิ ระหว่างยื่นรอเช็คเอ้าท์ ก็ได้โบชัวร์ Osaka Aquarium Kaiyukan งั้นไปที่นี่ละกัน แต่ก่อนไปก็เอากระเป๋าไปฝากที่เกสเฮ้าท์ใหม่ก่อน บอกเล่อเหมือนมาตจว. แต่เมืองนี้น่าอยู่มากๆ ตึกรามบ้านช่องดูเก่าๆ แต่มีสเน่ห์ ก่อนไปต่อเฮายังไม่ได้กินข้าวเลย ก็เลยหาร้านแถวๆ นั้น แล้วก็เดินไปเจอร้านคาเร่(ข้าวแกงกระหรี่) ข้างนอกร้านว่าน่ารักแล้ว ข้างในก็น่ารักดูอบอุ่นคุณป้ามีลูกชายมั้ยค่ะ หนูอยากอยู่ที่นี่ มีคุณป้าที่เหมือนเป็นคุณแม่ค่อยดูแล แล้วคาเร่ก็ไม่ธรรมดา เครื่องเทศนำเข้าจากศรีลังกา รสชาติขึ้นจมูกมากๆ กินไปน้ำหูน้ำตาไหล คุณป้าก็กลัวพวกเราจะกินไม่ได้ แต่พวกเราบอกกินได้ค่ะ ส้มตำพริกติดครกบ้านหนูเผ็ดกว่านี้ค่ะ < อันนี้ไม่ได้บอกไปนะ ฮ่าๆ 

ถึง shichido แล้ว ฝนก็ยังตก 

ที่นอนคืนนี้ 

ร้านข้าวแกงกระหรี่ที่อยู่ระแวกนั้น


             อาหารลงท้องเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางไป Osaka Aquarium Kaiyukan กันเลย!! เปิดตั้งแต่ 10.00 a.m – 8.00 p.m คนทั่วไป เด็กม.ปลาย 2300 เยน เด็กม.ต้น 1200 เยน ต่ำกว่า 4 ขวบ 600 เยน ขนาดมาถึงบ่ายแก่ๆ แล้วคิดว่าคนคงน้อย ไม่เลยต่อแถวยาวทุกช่อง


โดนซอฟท์ครีมอีกเย้วว \(‵▽′)/


Osaka Aquarium Kaiyukan

             พอเข้าไปแล้วก็เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ฮ่าๆ มันเว่อวังอลังการมาก แต่ละจุดมีตราปั้มให้ปั้มด้วย ตัวการ์ตูนน่ารักเชียว กว่าจะเดินครบคือใหญ่มากก มี 7 ชั้นได้ ก่อนออกก็มีร้านของที่ระทึกให้ซื้อกัน เราก็เดินวนๆ ไม่รู้จะซื้อะไร ทั้งที่ชอบว่าเพื่อนว่าถ้าไปเที่ยวห้ามซื้อพวงกุญแจมาฝากนะ 'ค่ะ เราซื้อ' ฮ่าๆ ตอนเลือกๆ ก็หยิบตัวนาคมา อยู่ๆ น้องเดินมาพูดว่าตัวไหนยิ้มให้เราก็เอาตัวนั้นแหละ แค่นั้นแหละ หันไปเจอวาฬยิ้มให้ วางนาคลงแล้วหยิบพี่วาฬตัวนั้นเลย ฮ่า ๆ แล้วก็หมุนกาชาปองมาฝากน้องที่บ้าน ช็อปกันเสร็จก็ออกไปรับลมข้างนอก ข้างหลังอควาเรียมเป็นแม่น้ำ ลมแรงมั่กมากกก ตอนนั้นฝนก็หยุดตกละ แดดแรงเลยห้าโมงกว่าๆ  ดูเรือวิ่ง ดูคน ดูพระอาทิตย์ตก เสร็จแล้วก็กลับ ก่อนกลับเราจะกินข้าวที่นี่เลยรึกลับไปกินแถวเกสเฮ้าท์ดีนะ แต่ก็นะ กินแถวนี้ไปเลยละกัน 






( ̄▽ ̄)~* 

ช่วงระทึกขากลับมาถึงแล้ววว ฮ่าๆ อุส่าดีใจวันนี้กลับบ้านเร็วกลับก่อน สองทุ่ม แต่ดันนั่งรถไฟผิดสาย นั่งผิดซ้ำไปซ้ำมา คือกลับมาที่จุดเปลี่ยนสถานีอยู่ประมาน 3 รอบได้ ฮ่าๆ รอบที่สองคือรถไฟวิ่งผ่านสถานีที่เราต้องลงนะ แต่มันไม่จอดง่ะ พอนั่งเลยไปกลับมากะลงก็ไม่จอดอีก เลยทำให้รู้ว่าอ่อ เราต้องนั่งแบบโลโค้ เอกเพรสมันไม่จอด ฮ่าๆ อ่า วันนี้ได้ขนมกลับมาด้วย อันนี้ก็พลาดเหมือนกัน ฮ่าๆ ตอนขาไปเปลี่ยนรถที่ Shinsaibashi (มั่ง) เห็นร้านไดฟุกุสตอเบอร์รี่ อยากกินง่ะ เห็นพวกชอบรีวิวในทวิตงี้ กะว่าขากลับแวะซื้อละกัน พอขอกลับก็เจอ..แต่เอ๊ะทำไมไม่ขายเหมือนที่เจอตอนบ่ายอ่ะ ทำไมเปลี่ยนเป็นขายขนมปัง ก็เออซื้อขนมปังก็ได้เดินวนอยู่ในนี้หลายรอบละ เราก็ได้โยเกิร์ตมาน้องก็ซื้อขนมปังเสร็จก็เดินไปต่อ อ่ะจ๊ากก ร้านอยู่ตรงนี้เว้ย ไม่ใช่ร้านนั้น ผิดร้าน! ข้าพลาด ฮ่าๆ  แต่ก็ซื้ออีกอยู่ดีนั้นแหละ มาที่นี่ยังไม่ได้โดนขนมหวานเลยนะ 

ตบท้ายด้วยของหวานก่อนนอน ( ̄. ̄)

มาถึงเกสเฮ้าท์ก็เกือบจะสี่ทุ่มกว่าๆ ได้เวลาเช็คอิน ที่นี่เป็นบ้านเล็กห้องรวม แยกชายหญิงนะ คืนแรกของที่นี่ ในห้องมีแค่เรากับน้อง แล้วก็น้องเด็กญี่ปุ่นอีก 2 คน สองนางก็น่ารักดีนะ แต่เรา(คนเดียว)เป็นคนกลัวต่างชาติ ก็วิ่งหนีกันไป ฮ่าๆ  
_______________________________

20/03/15 
วันดีๆ เจอคนดีๆ :)

  จริงๆ วันนี้ต้องเกียวโตใช่ม๊า แต่มันผิดแผนตั้งแต่มะวานล่ะ เกียวโตจ้ารอบหน้าแล้วกันเน๊าะ เดี๋ยวพี่เก็บตังมาใหม่ T^T แล้วยูนิเวอร์แชลที่รอเคยก็มาถึง แต่ก็ผิดพลาดทางเทคนิดเล็กน้อย มาสายได้เข้าไปในสวนสนุกก็เที่ยงละ อากาศวันนี้ดีจนหนาวมาก ลมแรง โฮกกกก ╯﹏╰






JAWS ในตำนาน 

            สิ่งแรกที่ต้องทำ คือไปกดคิวเข้าแฮรี่ น้องภูมิใจนำเหนอมาก ซึ่งเราไม่เคยอ่านเลยไม่ค่อยอินเท่าไร(คนยุคไหนว่ะ) เคยดูหนังผ่านๆ *ต่อๆ* วิ่งไปกดคิวอย่างรวดเร็วได้รอบ ห้าโมงครึ่ง โฮกกกกกกกก แล้วเราจะไปเล่นอะไรดี งั้นไปเล่นปลาฉลาม(JAWS)ในตำนานละกัน เล่นเสร็จก็วิ่งไป Jurassic Paek อ้าวต้องกดคิวเหมือนกัน แต่คิวมมันใกล้ๆ กับแฮรี่เลย แต่ก็เอาคิวไว้ก่อน เดินผ่าน Back to the Future the Ride เห็นคนน้อยๆ เข้าไอ้นี่ละกัน แต่โน๊ววววว ฉันโดนหลอก แถวมันอยู่อีกฝั่งนึง ฮ่าๆ แต่ต่อไปแล้วก็เล่นอันนี้แหละ กะเล่นเสร็จแล้วไป ต่อแถวสไปร์เดอร์แมนต่อ แต่ว่าหิว อยากกินไอ้ขานั้นจังเลย เห็นคนถือเยอะมาก เลยไปเดินหาดู สรุปแล้วมันคือขาไก่งวง คนต่อแถวซื้อเยอะมากเหมือนกัน หน่องใหญ่ๆ 850 เยน แพงมากด้วย T^T อย่าถามว่าอร่อยมั้ย คนมันหิวอะไรก็กินได้ ฮ่าๆ ดูเวลาใกล้ห้าโมงแล้ว ก็รีบเดินไปต่อแถวเข้าแฮรี่เลยละกัน  





            พอได้เข้าไปข้างในโอ้โห คนมหาศาล ต่อแถวนานมว๊ากกกก กว่าจะได้เข้าปราสาท 2 ชั่วโมงได้ รอนานแต่ไม่ผิดหวังฮ่ะ เข้าไปแล้วตื่นตาตื่นใจสุดๆ ไอ้กรอบรูปที่พูดได้มันวิเศษจริงๆ ในหนังก็มีแบบนี้เหรอ ฮ่าๆ เล่นเครื่องเล่นข้างในเสร็จ กะว่าออกมาเล่นรถไฟเหาะข้างนอก แต่ดูการต่อคิวแล้วสวนสนุกปิดพอดี งั้นไปเล่นอันใหญ่ๆ ข้างนอกละกัน แต่พอวิ่งไปถึงอกหักดังเป๊าะ ปิดแล้วหยุดรับคิวคนที่บัตรแบบธรรมดาเลย โฮกกกก ยืนชะเง้อคอยาวยู่สักพัก ก็มีคุณป้ามาคุยกะน้อง พูดญี่ปุ่นพูดอังกฤษกันก็ไม่เข้าใจ คุรป้าเลยยื่นรับเอกเพรสให้สองใบ แล้วผลักๆ ให้เข้าไป เฮ้ย!! ให้พวกเราจริงดิ คุณป้าก็พยักหน้า ผลักๆ เข้าไป เย้ยยย ได้เล่นแย้ว ดีใจ *ยิ้มอ่อน* หันไปโค้งขอบคุณค่ะ ก็รีบวิ่งเข้าไป ผ่านด่านไปอย่างง่ายายได้เล่นสมใจ แต่เล่นตอนรถไฟเหาะตอนสองทุ่ม ตายค่ะ สูงก็สูง เสียวก็เสียว เราจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่เหรอเนี้ย พ่อจ้าแม่จ้า ฮ่าๆ อากาศหนาวๆ แบบนี้ ลงมาน้ำหมูกก็ไหลเป็นทาง ... 

ออกจากปราสาทแฮรี่ก็มึดแล้ว

ต่อๆ ลงจากรถไฟเหาะก็รีบวิ่งไปสไปร์เดอร์แมนต่อ ไหนๆ เราก็มีบัตรแบบเอกเพรสแล้ว วิ่งเข้าไปผ่านทุกด้านเลย พอถึงด่านสแกนบัตร อ้าวว สิทธิ์นั้นใช้ไปแล้ว หน้าแตกละเอียดวิ่งออกมาแทบไม่ทัน ฮ่าๆ 


ขอหาอะไรร้อนๆ กินหน่อย 

ไม่ได้ถ่ายรูปกับป้ายเลย คนเยอะ 
╮(╯_╰)╭

             เรามาที่นี่ยังไม่ได้กินทาโกะเลยนะ 'ป่ะๆ พี่เลี้ยงเอง' เห็นร้านอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้า ขอลองเลยละกัน ตอนแรกกะว่าจะซื้อกลับไปกินที่เกสเฮ้าท์ แต่คิดไปคิดมากินที่นี่ละกัน พอเข้าไป งง เบย เมนูญี่ปุ่นจ้า ไม่มีรูปไม่มีอังกฤษเลย ชี้ๆ แบบเดิมไม่ได้แล้ว แต่โชคดีฮ่ะ ลูกชายที่ร้านพูดอิ้งได้นิดหน่อย เลยได้กิน สั่งทาโกะอย่างเดียวก็น้อยไป สั่งเบียร์มาอีกคนละแก้ว ฮิฮิ พี่เลี้ยง กิน เลยๆ โชว์ป๊าตลอด ร้านก็เป็นกันเองสุดๆ แบบในหนังญี่ปุ่นเลย เหมือนเค้ากำลังเล่นเกมส์อะไรกันอยู่สักอย่าง ตอนที่เค้าบอกเมนูเรา มีเล่นทายคำกันด้วย แต่เราไม่เข้าใจฮ่ะ น้องไม่ได้แปลด้วย ฮ่าๆ แล้วอยู่ๆ มามีลูกค้าเข้ามาเป็นลุงๆ หน่อย(น่าจะรู้จักกันทั้งร้าน) ก็ถามพวกเรามาจากไหนพอบอกมาจากไทยแลนด์เค้าก็ อ่าๆ เคยไป ลุงกะลูกชายเจ้าของร้านก็ถามว่ามาอยู่ที่นี่กี่วัน ไปเที่ยวไหนมาบ้างบลาๆ พอบอกว่าคืนนี้คืนสุดท้ายแล้ว อ่า ... แล้วก็เดดแอร์แป๊บนึง พวกเราก็กินทาโกะ ถ่ายรูปอะไรกันไป สักพักก็จะจ่ายตังละ ลูกชายบอกนี่มีอะไรจะให้กิน อย่าพึ่งๆ นั่งก่อนๆ มีของขึ้นชื่อของที่นี่ เป็นปลาอะไรสักอย่าง ให้ลองทาน แล้วคุณป้าก็ยื่นมาให้คนละถ้วย เฮ้ย นี่หลอกให้กินอะไรว่ะ แต่ก็กินกัน นั่งคุยกันสักพักก็จะกลับจริงๆ ล่ะ ควักตังค์ออกมาจะจ่าย คุณป้าและคุณลูกชายคุณลุงลูกค้าคนนั้น บอกไม่เป็นไร 'เลี้ยง!!' เฮ้ยยย จริงดิ! ทำไมวันนี้เจอคนใจดีแบบนี้ ฮ่าๆ เพื่อความชัวร์ถามอีกรอบ เค้าก็บอกไม่เป็นไร อยู่ที่นี่คืนสุดท้ายแล้วเลี้ยงละกัน แล้วกลับมาเที่ยวที่นี่อีกนะ โฮกกกกกกกกกกกก *โค้งเก้าสิบองศา* ทำไมคนที่นี่ใจดีจัง เมืองน่ารักคนน่ารัก ปลื้มใจจัง :)






*สงสัยเพราะได้กินเบียร์คืนนี้หลับสบายมว๊ากกกกกกกกก*

_______________________________

21/03/15 
*วันสุดท้ายแล้ว เที่ยวงานวัดชิวๆ

วันนี้วันสุดท้ายแล้วเหรอเนี้ย ไม่อยากกลับเลย อาการนี้น่าจะเป็นทุกคน ถ้ามาเจออะไรที่ชอบ จริงมั้ย :) แผนวันนี้คือไปเดินดูของมือสองที่งานวัดShitenno-ji เดือนนึงจะจัด2ครั้งมั่ง นั่งรถไฟมาถึงสถานี Tennoji ออกประตูไหนจำไม่ได้ ฮ่าๆ ฝั่งตรงข้ามมาแมค จำได้เท่านี้ ก็ไปเดินงงๆ คนเยอะมากก เลยกะว่าเดินตามคนไป คนเยอะๆ ก็น่าจะไปทางเดียวกัน ฮา ก็ข้ามถนนไป พอข้ามไปเหมือนคนไปสวนสัตว์กัน ผิดทาง ฮ่าๆ เลยถามคนแถวนั้น เค้าก็บอกให้ข้ามถนนกลับไป แล้วเดินตามคนเยอะๆ ไป อ้าววว มะกี้เราก็ใช้มุขนี้นะ ฮ่าๆ พอข้ามกลับมา เจอร้านอูดงยืนกิน งั้นเราหาอะไรกินกันก่อนมั้ย คือกินอะไรที่นี่ต้องเสียงดังๆ ใช่มั้ย คือลุงข้างๆ ซดดังมาก ซึ่งเราก็ค่อยๆ เป่า ค่อยๆ กิน หนูทำแบบลุงไม่ได้จริงๆ ค่ะ 


อูดงยืนกิน ได้เยอะมาก 


วัด Shitenno-ji คนเยอะมาก มีทั้งมาซื้อของ และไหว้พระ







เจอของดี ผมนี่รีบซื้อเล่อ ゝ(°▼°メ)ノ
 
        เดินเล่นอยู่นาน รู้ตัวอีกทีบ่ายแก่ๆ พวกเราก็เดินออกจากวัดกลับมาที่สถานีรถไฟไปหาที่นั่งพักเหนื่อย เดินวนๆ ก็เจอสตาร์บัค ฉันรักกาแฟสีเขียวนี้จังเลย แหล่งหา wifi ของเรา เพราะยังไม่รู้จะไปไหนต่อ แหะๆ แต่เมื่อเช้าเห็นหอคอยซึเท็นกะกุ (Tsutenkaku) อยู่แถวๆนี้ ตอนนั่งรถผ่าน ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นจากทางไหน พอได้ wifi ได้กาแฟ ก็ได้เส้นทางต่อไป คือเดินไป งั้นขอนั่งพักเหนื่อยแพร้บบบ แค่เดินลัดสวนสัตว์ Tennoji ก็ถึงแล้ว 



*รีวิวสตาร์บัคสาขานี้หน่อย พอดี ตอนเราไปเค้าเพิ่งเปิดนะ ได้ 2 วัน อยู่ชั้น 4 ของสถานีนี้

 



        พอหายเหนื่อยก็ออกเดินทางกันต่อใช้มุขเดียวกับเมื่อเช้าเลยเดินตามคนเยอะๆ ไป ระหว่างทางนอกจากจะเจอสวนสัตว์แล้วยังเจออาร์ทมิวเซียมอะไรสักอย่าง แต่ใกล้เวลาปิดแล้ว เลยไม่ได้แวะ พอเดินถึงทางเข้าคนเยอะมากๆ เลย มีร้านกาชาปองเยอะมาก มีเหรียญเท่าไหรหยอดไปหมดเลย ฮ่าๆ ได้ของฝากนิดหน่อย พอเดินออกจากหอคอยมาก็มาเจอถนน เฮ้ย ที่นี่มันที่เรานอนคืนแรกนิ ฮ่าๆ แล้วก็เดินกลับไปสถานี Shinimamiya กลับไปเอากระเป๋าที่เกสเฮาท์ เพื่อไปสนามบิน  ฮือออ ไม่อยากกลับๆ *กอดเสารถไฟฟ้าแน่น*



แสงสุดท้ายของที่นี่ *ร้องไห้หนักมาก*


จัดมื้อใหญ่ๆ ก่อนกลับ ╭ (‵▽′)/

จบแล้ว ทริปครั้งแรกก็...โอซาก้าของเราแล้ว ขอบคุณที่ผ่านเข้ามาอ่านกันนะ เหมือนไม่มีสาระอะไรเลย มีคำผิดไปบ้างต้องขออภัย พิมพ์เยอะได้อีก ใช้เวลาเขียนเดือนกว่าๆ ถอดใจไปหลายครั้งเกือบไม่เสร็จแล้ว ฮาาาา 
 
_______________________________

▽▽▽โอซาก้า ฟรี WIFI▽▽▽



แถม..